“เหนียงใต้คาง” ปัญหาที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ที่จริงแล้วสามารถส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ประสบปัญหาเป็นอย่างมากค่ะ
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าใบหน้าของเรานั้นเป็นสิ่งที่เรานั้นสามารถสังเกตเห็นกันได้ง่ายมากที่สุด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อมีส่วนไหนของใบหน้าที่ผิดสมดุลไป
ก็สูญเสียความมั่นใจได้ง่ายตามไปด้วย โดยเฉพาะเหนียงบริเวณใต้คางที่นอกจากจะทำให้ผิวดูหย่อนคล้อยแล้ว ก็ยังทำให้รูปหน้าเสียสมดุลอีกด้วยนั่นเองค่ะ
และด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ปัญหานี้จึงควรถูกแก้ไขให้เร็วที่สุดค่ะ
“เหนียงใต้คาง” ปัญหาที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ที่จริงแล้วสามารถส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ประสบปัญหาเป็นอย่างมากค่ะ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าใบหน้าของเรานั้นเป็นสิ่งที่เรานั้นสามารถสังเกตเห็นกันได้ง่ายมากที่สุด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อมีส่วนไหนของใบหน้าที่ผิดสมดุลไป ก็สูญเสียความมั่นใจได้ง่ายตามไปด้วย โดยเฉพาะเหนียงบริเวณใต้คางที่นอกจากจะทำให้ผิวดูหย่อนคล้อยแล้ว ก็ยังทำให้รูปหน้าเสียสมดุลอีกด้วยนั่นเองค่ะ และด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ปัญหานี้จึงควรถูกแก้ไขให้เร็วที่สุดค่ะ
เหนียงใต้คาง เกิดจากอะไร ทำไมจึงลดยาก Dr.Vanda มีคำตอบ!
จากที่กล่าวค่ะว่า แม้เหนียงจะดูเป็นปัญหารูปหน้าเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ส่งผลอันตรายอะไร แต่ก็ทำให้ผู้ประสบปัญหารู้สึกรำคาญใจและสูญเสียความมั่นใจในรูปหน้าอีกด้วย และเพื่อเป็นการให้ทุกคนได้ศึกษาถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้ได้ลึกและละเอียดมากขึ้น ใบบทความนี้หมอแวนด้ามีคำตอบค่ะ
ทำความเข้าใจกันก่อน “เหนียงใต้คางเกิดจากอะไร”
เหนียงบริเวณใต้คาง หรือ คางสองชั้น (Double Chin) นั้น คือการเกิดไขมันสะสมบริเวณคางทำให้ผิวหนังบริเวณใต้คางหย่อนยานออกมาและเห็นได้
ชัดเจนมากขึ้นไม่ว่าจะเห็นหน้ามุมไหนก็ตาม ซึ่งเหนียงที่ใต้คางนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยค่ะ เช่น…
เหนียงบริเวณใต้คาง หรือ คางสองชั้น (Double Chin) นั้น คือการเกิดไขมันสะสมบริเวณคางทำให้ผิวหนังบริเวณใต้คางหย่อนยานออกมาและเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นไม่ว่าจะเห็นหน้ามุมไหนก็ตาม ซึ่งเหนียงที่ใต้คางนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยค่ะ เช่น…
เนื่องจากร่างกายของเรานั้นมักเกิดการสะสมของไขมัน โดยแต่ละคนก็จะมีบริเวณไขมันสะสมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเหนียงคือไขมันที่สะสมอยู่บริเวณคางนั้นเองค่ะ โดยเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนและอีลาสติน ในผิวหนังของเราก็จะจะลดลงตามไปด้วย ซึ่งทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อย
บริเวณใต้คางจึงดูหย่อนคล้อยมากขึ้น แม้ว่าจะไม่มีไขมันสะสมมากก็ตามค่ะ
เป็นปัจจัยที่ส่งผลมากทีเดียวค่ะกับการส่งต่อปัญหานี้ทางพันธุกรรม ซึ่งการส่งต่อนั้นไม่ใช่การส่งต่อการสะสมไขมันนะคะ
แต่จะเป็นส่งต่อในลักษณะ เช่นว่า การมีผิวหย่อนคล้อยง่าย หรือมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันใต้คางมากกว่าปกตินั่นเอง
เนื่องจากในบางคนที่มีโครงกระดูกคางเล็กหรือกล้ามเนื้อบริเวณคางอ่อนแรง จึงอาจทำให้คางดูเหมือนมีเหนียงได้ค่ะ
ซึ่งแม้จะไม่มีไขมันส่วนเกินมาก แต่โครงหน้ากล้ามเนื้อใบหน้าเช่นนี้ก็ทำให้รูปหน้าดูเหมือนมีเหนียงได้เช่นกัน
เช่น ก้มหน้ามองโทรศัพท์เป็นเวลานาน (Text Neck) หรือ การนั่งหรือยืนที่ทำให้คออยู่ในลักษณะงอ ฯลฯ เนื่องจากท่าทางดังกล่าวมีการก้ม ๆ เงย ๆ
จึงอาจทำให้กล้ามเนื้อใต้คางอ่อนแรงและทำให้เหนียงชัดขึ้นค่ะ
เช่น การเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยทอง หรือการสะสมไขมันที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ก็อาจเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดเหนียงขึ้นได้เนื่องจากสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป
ดังนั้น ปัจจัยนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนประสบปัญหานี้ได้ค่ะ
เนื่องจากร่างกายของเรานั้นมักเกิดการสะสมของไขมัน โดยแต่ละคนก็จะมีบริเวณไขมันสะสมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเหนียงคือไขมันที่สะสมอยู่บริเวณคางนั้นเองค่ะ โดยเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนและอีลาสติน ในผิวหนังของเราก็จะจะลดลงตามไปด้วย ซึ่งทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อย บริเวณใต้คางจึงดูหย่อนคล้อยมากขึ้น แม้ว่าจะไม่มีไขมันสะสมมากก็ตามค่ะ
เป็นปัจจัยที่ส่งผลมากทีเดียวค่ะกับการส่งต่อปัญหานี้ทางพันธุกรรม ซึ่งการส่งต่อนั้นไม่ใช่การส่งต่อการสะสมไขมันนะคะ แต่จะเป็นส่งต่อในลักษณะ เช่นว่า การมีผิวหย่อนคล้อยง่าย หรือมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันใต้คางมากกว่าปกตินั่นเอง
เนื่องจากในบางคนที่มีโครงกระดูกคางเล็กหรือกล้ามเนื้อบริเวณคางอ่อนแรง จึงอาจทำให้คางดูเหมือนมีเหนียงได้ค่ะ ซึ่งแม้จะไม่มีไขมันส่วนเกินมาก แต่โครงหน้ากล้ามเนื้อใบหน้าเช่นนี้ก็ทำให้รูปหน้าดูเหมือนมีเหนียงได้เช่นกัน
เช่น ก้มหน้ามองโทรศัพท์เป็นเวลานาน (Text Neck) หรือ การนั่งหรือยืนที่ทำให้คออยู่ในลักษณะงอ ฯลฯ เนื่องจากท่าทางดังกล่าวมีการก้ม ๆ เงย ๆ จึงอาจทำให้กล้ามเนื้อใต้คางอ่อนแรงและทำให้เหนียงชัดขึ้นค่ะ
เช่น การเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยทอง หรือการสะสมไขมันที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ก็อาจเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดเหนียงขึ้นได้เนื่องจากสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป ดังนั้น ปัจจัยนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนประสบปัญหานี้ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดเหนียงบริเวณใต้คางเท่านั้นซึ่งแต่ละบุคคลก็อาจมีปัจจัยและสาเหตุที่ทำให้ประสบปัญหา ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่ก็จะต้องทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหนียงที่ใต้คางของคนไข้ด้วย เพื่อการแก้ไขที่ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ

เหนียงที่ใต้คาง ลดยากจริงไหม ส่งผลยังไงต่อรูปหน้าของเราบ้าง?
จากที่ทราบข้อมูลกันมาแบบเบื้องต้นแล้ว แน่นอนว่าคำถามถัดไปที่จะตามมาก็คือ เหนียงที่ใต้คางนั้น ลดยากไหม หากลดยากควรทำยังไงดี?
เพื่อไขข้อสงสัยเหล่านี้ของทุก เรามาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ
เหนียงที่คาง ลดยากไหม?
โดยทั่วไปแล้วเหนียงที่บริเวณใต้คางสามารถสลายได้ค่ะ แต่ก็อาจจะมีปัจจัยที่ทำให้การลดเหนียงลำบากบ้างในบางกรณี เช่น…
- เป็นจุดที่กำจัดได้ยาก เนื่องจากไขมันใต้คางเป็นไขมันชนิดที่มักสะสมในพื้นที่เฉพาะ ทำให้การลดไขมันด้วยการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหารนั้น
อาจไม่เห็นผลชัดเจนเท่าที่ควร ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงเลือกเข้ารับหัตถการเพื่อสลายไขมันบริเวณจุดให้เห็นผลมากขึ้นนั่นเอง - ผิวหนังหย่อนคล้อย เนื่องจากการมีผิวหนังที่หย่อนคล้อยก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงได้เช่นกัน แต่หากเหนียงเกิดจากผิวที่หย่อนคล้อย
การลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยให้ผิวกระชับได้เท่าที่ควร จึงทำให้บางคนไม่เห็นผลค่ะ - โครงสร้างร่างกาย เนื่องจากผู้ประสบปัญหาบางคนมีพันธุกรรมหรือโครงสร้างกระดูกคางเล็ก การลดเหนียงด้วยวิธีทั่วไปจึงอาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
การทำหัตถการบางประเภทจึงอาจตอบโจทย์กว่า - พฤติกรรมที่ไม่เอื้อต่อการกระชับกล้ามเนื้อ จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นค่ะว่า การก้มหน้าใช้โทรศัพท์บ่อย หรือขาดการบริหารกล้ามเนื้อคอและคางนั้น
อาจทำให้เหนียงเด่นชัดขึ้น ซึ่งหลาย ๆ คนมักมีพฤติกรรมนี้เป็นประจำ การลดเหนียงที่ยากอยู่แล้ว จึงยากขึ้นไปอีกนั่นเอง
ดังนั้น หากการลดเหนียงไม่ได้ผลควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เพื่อวิเคราะห์และเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปัญหาของแต่ละบุคคลต่อไปค่ะ
เหนียงที่คาง ส่งผลต่อรูปหน้าของเรายังไง?
แม้จะเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนมองข้าม แต่ต้องขอเน้นย้ำอีกครั้งค่ะว่าปัญหาเหนียงนั้นเป็นปัญหาที่ควรเร่งแก้ไข
เนื่องจากส่งผลต่อรูปหน้าของเรามากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น…
- ทำให้ใบหน้าดูไม่มีกรอบที่ชัดเจน เพราะเหนียงใต้คางทำให้ขอบกราม (Jawline) ของใบหน้านั้นดูเบลอและลดความชัดเจนของกรอบหน้า
จึงทำให้รูปหน้าขาดความสมดุลและความเรียวไปนั่นเอง - ทำให้ใบหน้าดูกลมและดูอ้วนขึ้น แม้จะไม่ได้มีน้ำหนักตัวมาก แต่การมีเหนียงจะทำให้ใบหน้าดูอิ่มและกว้างขึ้นได้ ซึ่งกลายเป็นปัญหาหน้าอ้วนแต่ตัวผอม
ที่ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปหน้าของผู้ประสบปัญหามากขึ้นไปอีกค่ะ - ขาดความมั่นใจในการถ่ายภาพ โดยไม่ว่าจะเป็นมุมมองด้านข้าง (Side Profile) หรือมุมต่ำ เหนียงที่ใต้คางจะทำให้คอและคางดูสั้น
และลดความคมของโครงหน้า ซึ่งจะทำให้รูปที่ถ่ายออกมาไม่ได้ดั่งใจเพราะรูปหน้าที่ไม่สมดุลค่ะ
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงผลกระทบส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งทุกคนจะเห็นได้แล้วว่าการมีเหนียงนั้นส่งผลต่อบุคลิกภาพ และ อาจทำให้ผู้ประสบปัญหากังวล
เรื่องรูปลักษณ์โดยรวม ดังนั้น ควรรีบแก้ไขก่อนที่จะส่งผลต่อรูปหน้าและความมั่นใจของเรามากไปกว่านี้ค่ะ



( รีวิว EndoliftX จาก Dr.Vanda Aesthetic Clinic )
เหนียงเยอะทำไงดี รวม 5 เทคนิคสลายไขมันเหนียง
ปรับรูปคางและกรอบหน้าให้ชัดและสมดุลมากขึ้น
“กำจัดเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัด” เชื่อได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ประสบปัญหาหลายคนกำลังสนใจกันอยู่อย่างแน่นอนค่ะ
เนื่องจากที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ข้างต้นว่าใบหน้าของเราเป็นสิ่งที่คนเราสามารถสังเกตเห็นกันง่ายที่สุด ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงเป็นกังวลในเรื่องของแผลผ่าตัด
และการพักฟื้นที่ต้องใช้เวลาหลายวัน หมอปวนด้าจึงขอนำเสนอหัตถการสลายเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัดมาฝากกันค่ะ ซึ่งประกอบด้วย…
1. ฉีดเมโสแฟตเหนียง
สำหรับ เมโสแฟต (Mesofat) นั้น จะเป็นการฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันสะสมบริเวณใต้คางค่ะ ซึ่งตัวยาดังกล่าวจะประกอบด้วยสารที่ช่วยในการสลายไขมันโดยตรง
(Lipolytic Agents) เช่น Phosphatidylcholine และ Deoxycholate ซึ่งเมื่อตัวยาเหล่านี้เริ่มทำงานแล้วไขมันบริเวณใต้คาง ก็จะถูกสลายและถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองค่ะ
จุดเด่น สำหรับจุดเด่นของการสลายเหนียงด้วยการฉีดเมโสแฟตนั้นคือ เห็นผลเร็วในบริเวณที่มีไขมันสะสมเล็กน้อยถึงปานกลาง ที่สำคัญเลยคือไม่ต้องพักฟื้น
(Non-invasive) และเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาเหนียงอย่างเฉพาะจุดค่ะ (ไม่เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยนะคะ) ยังไงก็ตาม วิธีนี้อาจจะต้องฉีดหลายครั้ง
(2-4 ครั้ง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามรายละเอียดในการพิจารณาก่อนเข้ารับบริการด้วยนะคะ
2. กำจัดเหนียงด้วยเลเซอร์
หลักการทำงานของเทคนิคนี้จะเป็นการใช้เลเซอร์ที่มีความร้อนหรือพลังงานเฉพาะค่ะ เช่น Laser Lipolysis ซึ่งพลังงานเลเซอร์ดังกล่าวจะช่วยสลายเซลล์ไขมันใต้ผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อกระชับให้ผิวส่วนนั้นกระชับขึ้น และไขมันที่สลายไปก็จะถูกขับออกโดยระบบน้ำเหลืองเช่นเดียวกับการฉีด
จุดเด่น ของการสลายไขมันสะสมบริเวณใต้คางด้วยเลเซอร์ คือช่วยลดไขมันและกระชับผิวในขั้นตอนเดียวและให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างถาวรหากไม่มีการสะสมไขมันใหม่
ซึ่งจะตอบโจทย์มากกว่าการสลายด้วยเมโสแฟตสำหรับผู้ที่ประสบปัญหามีทั้งไขมันสะสมและผิวหย่อนคล้อยเพราะเป็นเทคนิคที่ครบวงจรในขั้นตอนเดียวค่ะ
3. HIFU ลดเหนียง
ในการลดเหนียงด้วย HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) นั้นจะเป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงส่งพลังงานลึกลงไปในชั้น SMAS
(ชั้นที่รองรับผิวหนังและกล้ามเนื้อ) ค่ะ ซึ่งการทำงานของคลื่นตัวนี้จะช่วยยกกระชับผิวและสลายไขมันใต้ผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เช่นเดียวกับ
การลดเหนียงด้วยตัวเลเซอร์ ซึ่งหลังทำจะช่วยให้เหนียงใต้คาง ไขมันแก้มลดลง และกรอบหน้าชัดขึ้นค่ะ
4. Ulthera ลดเหนียง
สำหรับการทำงานของ Ulthera เหนียง และคอ นั้นจะเป็นการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวน์ที่ถูกส่งไปยังชั้นผิวที่ลึกที่สุด ทำให้เกิดความร้อนที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และทำให้ผิวหนังยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
จุดเด่น ของ Ulthera ในการลดเหนียงคือ คลื่นอัลตราซาวด์ที่นำมาใช้นั้นเป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงจะถูกส่งลงไปถึงชั้นผิวลึก (SMAS layer) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้าค่ะ โดยคลื่นดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ ในผลลัพธ์ในบางเคสสามารถอยู่ได้นานถึง
1-2 ปีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การใช้ Ulthera ในการลดเหนียงนั้นมักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของอายุผู้เข้ารับบริการ โดยจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีการหย่อนคล้อยของผิว แต่หากมีผิวหย่อนคล้อยในระดับที่รุนแรง อาจต้องพิจารณาวิธีการอื่นร่วมด้วยค่ะ
5. EndoliftX แก้เหนียง
สำหรับเทคนิคน้องใหม่อย่าง EndoliftX เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ใช้ เลเซอร์ เพื่อลดเหนียงและยกกระชับบริเวณผิวที่หย่อนคล้อย โดยการทำงานของ EndoliftX
นั้นจะใช้เทคนิคการปล่อยแสงเลเซอร์ความยาวคลื่นที่เฉพาะเจาะจงลงไปใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
จุดเด่น ของ EndoliftX ที่ต่างจากเลเซอร์อื่น ๆ คือสามารถช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังในจุดที่ต้องการได้โดยตรง ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง
โดยไม่ต้องมีระยะเวลาฟื้นตัวนาน แถมยังมีความแม่นยำที่มากขึ้น ซึ่งการใช้ไฟเบอร์เลเซอร์ที่มีขนาดเล็กมากช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมการทำงานได้อย่างแม่นยำ
และยังลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อใกล้เคียงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 5 วิธีนี้ถือเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาลดเหนียงโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่น่าสนใจที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งก็จะมีความเหมาสมกับแต่ละบุคคลที่อาจแตกต่างกันออกไปค่ะ ดังนั้น หมอแวนด้าขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าการเข้ารับบริการแต่ละหัตถการ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เหนียงยาน ทําไงดี? แชร์เคล็ดลับกำจัดเหนียงด้วย EndoliftX
เทคโนโลยียกกระชับที่เหนือกว่า ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยดังใจ
EndoliftX คือ
นวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่เจาะลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนังผ่านจุดกรีดเล็ก ๆ เพียงจุดเดียวด้วยเข็มขนาดเล็ก จากนั้นเส้นใยเลเซอร์ที่มีความยืดหยุ่น
จะถูกแทรกเข้าไปในบริเวณที่ต้องการและเริ่มทำความร้อนเพื่อละลายไขมันที่สะสมไว้ แต่ก็ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในเวลาเดียวกันค่ะ
EndoliftX ช่วยในการยกกระชับอย่างไร
มีหลักการทำงานที่ช่วยให้ผิวมีความเต่งตึงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน?
จากที่ได้กล่าวไปค่ะว่า EndoliftX เป็นเทคนิคที่ใช้เลเซอร์เพื่อช่วยยกกระชับผิว โดยจะใช้เส้นใยไฟเบอร์ขนาดเล็กมากสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวในบริเวณที่ต้องการ
หลังจากนั้นเลเซอร์จะเริ่มกระบวนการทำงานโดย
- ยกกระชับจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน:
เลเซอร์ของ EndoliftX จะกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ในชั้นผิวลึกให้สร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นมากขึ้น - ยกกระชับจากการสลายไขมันส่วนเกิน:
เทคโนโลยี EndoliftX สามารถช่วยลดไขมันสะสมที่ไม่พึงประสงค์เช่นกันค่ะ บริเวณใบหน้า เช่น คางสองชั้น
โดยพลังงานเลเซอร์จะสลายไขมัน และกระตุ้นการขับออกจากร่างกาย - ยกกระชับผิวทันที:
ขณะที่กระบวนการทำงานอยู่ ตัวเลเซอร์ของ EndoliftX จะช่วยยกกระชับชั้นผิวหนังในทันทีค่ะ
ทั้งนี้ ยังช่วยปรับโครงสร้างผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ อีกจุดเด่นสำคัญของ EndoliftX คือ เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและมีการฟื้นตัวที่รวดเร็ว ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์
โดยไม่ต้องเผชิญกับขั้นตอนที่ซับซ้อนหรือต้องพักฟื้นเป็นเวลานานค่ะ
EndoliftX สลายไขมันบริเวณเหนียงได้อย่างไร
มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน?
การทำงานของ EndoliftX ในการสลายไขมันบริเวณเหนียงนั้นมีความเฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพสูง โดยเทคโนโลยีนี้ใช้เลเซอร์ชนิดพิเศษที่ปล่อยพลังงานในรูปของแสงเลเซอร์ผ่านเส้นไฟเบอร์ออปติกที่มีขนาดเล็กมากเมื่อเส้นไฟเบอร์ถูกสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวในบริเวณที่มีไขมันสะสมนั่นเองค่ะ
เลเซอร์ช่วยทำลายเซลล์ไขมันโดยตรง ซึ่งเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองอย่างเป็นธรรมชาติ จึงช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อย่างเห็นผล
นอกจากการสลายไขมันแล้ว พลังงานเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
ทำให้ผิวกระชับและลดความหย่อนคล้อยในบริเวณเหนียง ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
พลังงานจาก EndoliftX ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวบริเวณที่รักษามีความยืดหยุ่นและดูเนียนเรียบขึ้นในระยะยาว
ข้อดีของกระบวนการนี้คือใช้เวลาทำไม่นาน ไม่มีแผลผ่าตัดหรือความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ และฟื้นตัวได้รวดเร็ว
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการตอบสนองของแต่ละบุคคลค่ะ
ข้อควรระวังในการลดเหนียงมีอะไรบ้าง ใช้เทคโนโลยี EndoliftX
แก้ไขปัญหาเหนียงหย่อนยานมีผลข้างเคียงอะไรไหม?
การลดเหนียงหรือปรับรูปหน้าด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงการใช้ EndoliftX จำเป็นต้องมีการพิจารณาและระมัดระวังในบางประเด็น
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นที่น่าพอใจ โดยมีข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่ควรทราบดังนี้:
ข้อควรระวังในการลดเหนียงด้วย EndoliftX
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำหัตถการด้วยเลเซอร์และมีประสบการณ์ในการใช้ EndoliftX เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีความเหมาะสมกับการรักษาวิธีนี้
- ภาวะสุขภาพของผู้รับบริการ: ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเลือดออกง่าย ภูมิแพ้รุนแรง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการรักษา
- การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการงดรับประทานยาและอาหารเสริมที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างและหลังการทำ
- การดูแลหลังทำหัตถการ: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำ EndoliftX อย่างเคร่งครัด เช่น การหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำหัตถการ การงดออกกำลังกายหนักในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เป็นต้น
ผลข้างเคียงของการใช้ EndoliftX
- รอยแดงและบวมเล็กน้อย: หลังจากทำการรักษา อาจมีอาการบวมแดงบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งโดยปกติจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- อาการบวมช้ำ: อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อยซึ่งเกิดจากการสอดใส่เลเซอร์ไฟเบอร์ อาการนี้มักไม่รุนแรงและจะค่อย ๆ หายไปเอง
- การตึงหรือรู้สึกแปลกในบริเวณที่ทำการรักษา: เนื่องจากการกระตุ้นการหดตัวของเนื้อเยื่อ อาจมีความรู้สึกตึงหรือเล็กน้อยในช่วงแรกหลังทำ
- ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: แม้จะมีโอกาสน้อย แต่การใช้เลเซอร์หรือการสอดไฟเบอร์ใต้ผิวหนังมีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้หากไม่ดูแลความสะอาดหรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำ
โดยรวมแล้ว EndoliftX เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
อย่างไรก็ตาม การรับข้อมูลและคำแนะนำจากแพทย์ก่อนตัดสินใจทำการรักษาจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ค่ะ

ทำความรู้จัก “EndoliftX Laser Fiber” เทคโนโลยี EndoliftX ใหม่ล่าสุด
ที่ Dr.Vanda Aesthetic Clinic สลายเหนียง ปรับรูปหน้าให้สวยดังใจ
“EndoliftX Laser Fiber” เทคโนโลยีที่จะมาเขย่าวงการยกกระชับผิวหน้าให้ก้าวไปอีกขั้น ซึ่ง EndoliftX รูปแบบนี้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน
การกระชับผิวหน้า ลำคอ และ สลายไขมัน
โดย EndoliftX Laser Fiber เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความคลื่นอยู่ที่ 1470 nm. เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และ ช่วยยกกระชับผิว โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และกระชับผิวโดยรวม โดยการใช้ EndoliftX แบบเลเซอร์ไฟเบอร์นั้นจะมีข้อดี คือ การใช้พลังงานความร้อน เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้นจากภายใน ทำให้ผิวดูตึงกระชับและอ่อนเยาว์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
จุดเด่นของ EndoliftX Lase Fiber อีกหนึ่งจุด คือ การใช้เส้นใยไฟเบอร์ขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่บางมาก (มีความบางกว่าเส้นผม) เพื่อนำเลเซอร์ไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนังอย่างตรงจุด ซึ่งจะเน้นในการสลายไขมันในบริเวณที่ต้องการ เช่น กรอบหน้า แก้ม คาง และลดความหย่อนคล้อยอย่างตรงจุด ซึ่งจะช่วยยกกระชับโดยตรงและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดไขมันส่วนเกินได้อย่างชัดเจนค่ะ
ทั้งนี้ เทคโนโลยี EndoliftX รูปแบบนี้เปิดให้บริการแล้วที่ Dr.Vanda Aesthetic Clinic สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ารับการประเมินและคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้เพื่อให้แผนการรักษาเหมาะสมและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เข้ารับบริการได้อย่างตรงจุดที่สุดค่ะ

สรุปข้อควรรู้เกี่ยวกับ หัตถการยกกระชับหน้า EndoliftX
EndoliftX ไม่เพียงแต่เป็นทางเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้า แต่ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีความงามที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างปลอดภัยและน่าประทับใจ หวังว่าข้อมูลที่ได้จาก Dr.Vanda Aesthetic Clinic ในครั้งนี้คงทำให้
ผู้สนใจมีความเข้าใจและสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมมากขึ้น หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือกำลังมองหาการเปลี่ยนแปลง
ที่มั่นใจในผลลัพธ์ EndoliftX อาจเป็นคำตอบที่ทุกคนกำลังมองหาค่ะ
ทำไมต้องทำ EndoliftX กับ Dr.Vanda Aesthetic Clinic
ที่ Dr.Vanda Aesthetic Clinic ของเรานั้น นอกจากจะเป็นคลินิกที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้มาตรฐานและปลอดภัยแล้ว เรายังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้บริการกับคนไข้ของเราทุกท่านเพื่อให้ผลลัพธ์ของทุก ๆ บริการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านมั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัยเมื่อให้เราดูแลค่ะ