สาวๆ กับความสวยถือเป็นของคู่กัน ไม่ว่าใครก็อยากมีหน้าเด็กอยู่ตลอดเวลากันอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่ด้วยการงานที่เคร่งเครียด รัดตัว ที่ทำให้เราดูแลตัวเองได้ไม่เต็มที่เหมือนแต่ก่อน จากที่เป็นคนชอบออกกำลังกายทุกวัน กลับกลายเป็นคนที่เหนื่อยล้า พร้อมจะนอนตลอดเวลา หรือบางคนอาจมีเรื่องเครียดจนต้องพึ่งของกินเยียวยาจิตใจอยู่บ่อยๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้คุณดูแลตัวเองน้อยลงจนมีไขมันสะสมบนใบหน้ามากขึ้น ใบหน้าดูอ้วนขึ้น
และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ส่องกระจกแล้วตระหนักได้ว่า ถึงเวลาที่ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้ว และกำลังหาวิธีลดไขมันบนใบหน้าด้วยตัวเองอยู่ ก็อาจจะอยากรู้ว่าลดไขมันใบหน้าใช้เวลานานไหม มีวิธีไหนที่เห็นผลไวแบบไม่ต้องเจ็บตัวบ้าง วันนี้หมอแวนด้ามีคำแนะนำดีๆ มาฝากค่ะ
ไขมันใบหน้า คืออะไร
ไขมันใบหน้า เกิดจากอะไร
- การบริโภคอาหารที่มีไขมัน, น้ำตาล และเกลือในปริมาณเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ
- ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น ช่วงตั้งครรภ์ หรือป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น PCOS (Polycystic Ovary Syndrome)
- มีพันธุกรรมจากคนในครอบครัวที่ทำให้ร่างกายสะสมไขมันบนใบหน้าง่ายขึ้น
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- การออกกำลังกายที่น้อยเกินไป หรือละเลยการออกกำลังกาย
- นอนหลับไม่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย
- อายุมากขึ้น
- ความเครียดสะสม
ผลกระทบจากไขมันใบหน้า

คนที่มีไขมันสะสมบนใบหน้ามากๆ อาจรู้สึกไม่มั่นใจในใบหน้า จนเกิดความเครียด วิตกกังวลตามมา
เมื่อไขมันสะสมบนใบหน้าเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่ลง ผิวหน้าไม่กระชับเหมือนแต่ก่อน
เพราะต้องปกปิดไขมันบนใบหน้าตลอดเวลา
จากไขมันที่ไปกดทับทางเดินหายใจขณะนอนหลับ
หากไขมันบนใบหน้าเกิดจากโรคอ้วน อาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว
ไขมันใบหน้า อันตรายไหม
ไขมันใบหน้า หายเองได้ไหม
ไขมันบนใบหน้าสามารถหายได้เอง เพียงแต่คุณจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างที่เป็นสาเหตุทำให้ไขมันไปสะสมที่ใบหน้า และที่สำคัญจะต้องใช้ความอดทนและมุ่งมั่นพอสมควร เพราะการลดไขมันบนใบหน้าด้วยตัวเองนั้นอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี แต่หากคุณทนรอผลลัพธ์ไม่ไหว ก็แนะนำให้รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์จะดีที่สุดค่ะ
ลดไขมันใบหน้า ด้วยตัวเอง มีวิธีไหนบ้าง
หากแผลมีการปนเปื้อนหรือสัมผัสกับสิ่งสกปรกจากภายนอกผ่านทางเครื่องมือผ่าตัดที่ไม่สะอาด, คนไข้ทำความสะอาดแผลไม่ดีพอ หรือคนไข้ละเลยการทำความสะอาดแผล ก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น สังเกตอาการติดเชื้อได้จากสัญญาณต่างๆ เช่น แผลผ่าตัดซีดหรือคล้ำกว่าผิวบริเวณอื่นบนใบหน้า, รู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลรุนแรงกว่าเดิม, รู้สึกแสบร้อนบริเวณแผล, แผลผ่าตัดบวมขึ้นอย่างต่อเนื่อง, มีหนองไหลออกมาจากแผล, แผลมีกลิ่นเหม็น ต่อให้ล้างแผลแล้วก็ยังมีกลิ่น หรือบางรายอาจมีไข้สูง มีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
นอกจากจะช่วยให้มีหุ่นสวย เป๊ะดั่งใจต้องการแล้ว การออกกำลังกายยังช่วยเสริมสร้างระบบต่างๆ ในร่างกาย ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย จึงช่วยลดไขมันทุกส่วน โดยเฉพาะใบหน้าซึ่งเป็นจุดที่ใครหลายคนไม่อยากให้ใครเห็น การออกกำลังกายลดไขมันจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่กระตุ้นการทำงานของหัวใจและปอด ช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่และไขมันที่สะสมในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย จึงลดอาการหน้าบวมจากการที่ร่างกายกักเก็บน้ำส่วนเกิน สำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่…
- การออกกำลังกายคาร์ดิโอแบบเบา – ปานกลาง
ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ได้แก่ การเดินเร็ว, วิ่งจ็อกกิง, ปั่นจักรยาน, เต้นแอโรบิก, ว่ายน้ำ - คาร์ดิโอแบบเข้มข้น หรือ HIIT (High Intensity Interval Training)
ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ได้แก่ วิ่งสปรินต์, กระโดดเชือก, กระโดดตบ, เบอร์พี
ส่วนการออกกำลังกายอีกประเภทที่หมอแวนด้าแนะนำจะเป็นเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการออกแรงต้านเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน เพราะหลังการออกกำลังกาย ร่างกายจะใช้พลังงานเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น จึงช่วยลดไขมันบนใบหน้าได้มากขึ้น เวทเทรนนิ่งที่ดีจะต้องทำเป็นประจำทุก 3-5 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30-45 นาที สำหรับท่าเวทเทรนนิ่งที่แนะนำจะเป็นการสควอช (Squats), วิดพื้น (Push-ups), แพลงก์ (Plank) ที่ใครก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายแม้แต่ชิ้นเดียว
ข้อแนะนำ : ต่อให้คุณจะเล่นเวทเทรนนิ่งเป็นประจำ แต่หากคุณไม่ควบคุมการบริโภคอาหาร ยังคงติดกินอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมเป็นประจำ ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันในร่างกายอาจทำได้ไม่เต็มที่ อาจทำให้ไขมันบนใบหน้าลดได้ไม่ตรงตามที่คาดหวังไว้
หลายคนอาจชอบปรุงเครื่องปรุงทุกครั้งที่ทานอาหาร แม้จะได้รสชาติที่ถูกใจ แต่หากไม่ถูกหลักโภชนาการเท่าไหร่นัก ก็อาจส่งผลให้การลดไขมันใบหน้าทำได้ยากขึ้นไปอีกค่ะ ดังนั้น การควบคุมอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุก ๆ คนไม่ควรละเลย เนื่องจากการทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและสมดุลสามารถช่วยเสริมกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกายได้นั่นเอง
รวมถึงการเลือกทานอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ผักและผลไม้สด โปรตีนจากแหล่งที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและไก่ และการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งสูง ก็สามารถช่วยลดไขมันได้เช่นกัน
ทั้งนี้ การทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย ช่วยให้กระบวนการเผาผลาญไขมันดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกายและใบหน้าได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
เพราะการการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยลดอาการบวมและช่วยให้ผิวหนังกระชับและสดใสมากขึ้น นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังเป็นการบำรุงผิวพรรณและช่วยให้การเผาผลาญไขมันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การดื่มนำวันละ 8-10 แก้วจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ทุก ๆ คนสามารถทำได้และสามารถลดไขมันตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างปลอดภัยอีกด้วยค่ะ
หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่า การนอนพักผ่อนที่เพียงพอ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญในการลดไขมันใบหน้าได้อีกด้วยค่ะ โดยในช่วงที่เรานอนหลับ ร่างกายจะมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเผาผลาญไขมัน ดังนั้น การนอนหลับที่เพียงพอจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถช่วยเสริมกระบวนการลดไขมันใบหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ การพักผ่อนยังช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในร่างกาย รวมถึงบริเวณใบหน้าด้วยนั่นเอง
ต่อให้คุณปฎิบัติตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อแรกอย่างเคร่งครัด แต่หากคุณมาตกม้าตายตรงที่จัดการความเครียดไม่ดีจนมีผลต่อการใช้ชีวิต เช่น เครียดมากเลยกินแก้เครียด หรือเครียดมากจนนอนไม่หลับ สิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้การลดไขมันใบหน้าไม่เห็นผลเท่าที่ควร ดังนั้นสิ่งที่ควรทำก็คือหาวิธีจัดการความเครียดให้เหมาะสม ไม่ให้รบกวนการใช้ชีวิตมากเกินไป สำหรับวิธีแก้เครียดที่หมอแวนด้าแนะนำจะมีทั้งการนั่งสมาธิ, อ่านหนังสือ, วาดรูป, ฟังเพลงธรรมชาติบำบัด, ถักนิตติ้ง หรือเล่นโยคะเบาๆ ก่อนนอน ที่จะนอกจากจะช่วยลดความเครียด ช่วยให้สมองผ่อนคลายได้แล้ว ยังช่วยเตรียมความพร้อมในการนอน ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สะดุ้งตื่นกลางดึกอีกด้วย

ไม่อยากเสี่ยงปัญหาตามมา ยกกระชับหน้า วิธีไหนดีสุด
EndoliftX Laser Fiber จาก Dr.Vanda Aesthetic Clinic เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้สำหรับการกระชับผิวและการปรับรูปหน้าจากภายในโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้เลเซอร์ชนิดไฟเบอร์ออปติกที่มีขนาดเล็กมากสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อสร้างความร้อนชั้นใต้ผิวหนังและกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเก่าและเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังไปในตัว และที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง ส่งผลให้สุขภาพผิวโดยรวมดีขึ้น ผิวดูกระชับขึ้น และที่สำคัญแสงเลเซอร์ที่ใช้จะเป็นแบบเฉพาะเจาะจง จึงมอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติทันทีหลังทำหัตถการ
สำหรับใครที่กังวลในเรื่องของแผลเป็นหลังการทำหัตถการ หมอแวนด้าขอยืนยันตรงนี้เลยว่าไม่มีแน่นอนค่ะ เนื่องจากการทำ EndoliftX ไม่ใช่การผ่าตัด เป็นเพียงการใส่เส้นใยไฟเบอร์ที่บางเฉียบเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังผ่านรูเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า นอกจากจะมอบผลลัพธ์ที่แม่นยำแล้ว ยังลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อใกล้เคียง หลังทำหัตถการคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยค่ะ ที่สำคัญคนไข้จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำหัตถการ ไม่ต้องใช้เวลารอผลลัพธ์เหมือนกับหลายๆ วิธี และผลลัพธ์จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่เข้าไปแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : EndoliftX Laser Fiber