ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ปรับให้เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย EndoliftX

“ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ” ปัญหาผิวที่ทุก ๆ คนต้องพบเจอ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่ออายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ผิวหน้าของเราหย่อนคล้อยและสูญเสียความกระชับ การปรับสภาพผิวเพื่อความเต่งตึงและอ่อนเยาว์ย่อมกลายเป็นความต้องการที่สำคัญสำหรับหลายๆ คน ในบทความนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปพบกับหนึ่งในวิธีการที่ทันสมัยและได้รับความนิยมอย่างสูงในการปรับปรุงผิวหน้าหย่อนคล้อย ด้วยเทคโนโลยี EndoliftX จาก Dr.Vanda Aesthetic Clinic ที่จะช่วยคืนความยืดหยุ่นและความกระชับให้กับผิวหน้าของผู้ประสบปัญหาอย่างเห็นผลและมีประสิทธิภาพค่ะ

ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ แก้ด้วย EndoliftX

ปรับผิวหน้าให้เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ได้แบบธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด

หลายคนอาจจะเริ่มสังเกตเห็นถึงความหย่อนคล้อยและความไม่กระชับของผิวหน้าที่เกิดขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะเทคโนโลยี EndoliftX ที่เราจะนำเสนอให้ผู้อ่านทุกคนได้รู้จักในวันนี้ จะเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ช่วยฟื้นฟูความเต่งตึงของผิวของผู้ประสบปัญหาความหย่อนคล้อยให้กลับมาอีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด เสริมความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้าดูสดใสและกระชับอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไร มาติดตามกันค่ะ

“ผิวหน้าหย่อนคล้อย” ดูอย่างไร?

“ผิวหน้าหย่อนคล้อย” คือ สภาพผิวที่สูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่นตามกาลเวลาหรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจแสดงให้เห็นจากสัญญาณต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ..

  1. ริ้วรอยที่เห็นชัดเจน : ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา รอยย่นที่หน้าผาก หรือรอบปาก มักจะชัดเจนขึ้นเมื่อผิวสูญเสียความกระชับ
  2. โหนกแก้มยุบตัวลง : เมื่อผิวหย่อนคล้อย โหนกแก้มอาจดูยุบลงหรือมีลักษณะที่ไม่เต็มเหมือนเดิม
  3. กรอบหน้าหรือคางสองชั้น : การหย่อนคล้อยที่กรอบหน้าทำให้เกิดคางสองชั้น หรือการหลุดร่วงของผิวที่ข้างแก้ม
  4. ผิวดูหมองคล้ำ : การสูญเสียความยืดหยุ่นอาจทำให้ผิวหน้าไม่กระจ่างใส ดูหมองคล้ำ หรือไม่สดชื่น
  5. รูปร่างใบหน้าเปลี่ยนไป : ความหย่อนคล้อยอาจทำให้รูปหน้าดูไม่เรียวเหมือนเดิม โดยเฉพาะบริเวณกรามหรือตรงกรอบหน้าล่าง

การสังเกตอาการเหล่านี้จะช่วยให้เรารับรู้ว่าผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยและสามารถเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสมได้ทันเวลาค่ะ

ผิวหน้าหย่อนคล้อย เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?

สาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยมีหลายปัจจัยที่ส่งผลร่วมกันค่ะ เช่น…

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่นจะลดลง ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยและไม่กระชับเหมือนเดิม

รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยเร็วขึ้น

เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น จะทำให้ผิวดูแห้ง หยาบกร้าน และสูญเสียความกระชับ จึงเกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย

การสูบบุหรี่ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนังลดลง ทำให้ผิวขาดสารอาหารและออกซิเจนที่จำเป็น ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อย

เช่น การตั้งครรภ์ การใช้ยาฮอร์โมน หรือการเข้าสู่วัยทอง ล้วนมีผลต่อการผลิตคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว

การลดน้ำหนักที่รวดเร็วเกินไปสามารถทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถหดกลับได้ ส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อย

ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีบทบาทในการกำหนดลักษณะผิวของแต่ละคน บางคนอาจมีผิวที่บางและสูญเสียความยืดหยุ่นได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ

ความเครียดเรื้อรังและการนอนหลับที่ไม่เพียงพอสามารถส่งผลต่อสุขภาพผิว โดยการเพิ่มการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลที่สามารถทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่น

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเพียงปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว แต่การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและดูแลผิวหน้าได้ดีขึ้น และรวมไปถึงการหาแนวทางรักษาที่เหมาะสมกับตัวเราได้มากที่สุดต่อไปค่ะ

วิธีแก้ไขหน้าหย่อนคล้อยมีอะไรบ้าง?

การแก้ไขผิวหน้าหย่อนคล้อยสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งวิธีที่นิยมใช้ในการฟื้นฟูความกระชับและยืดหยุ่นของผิวหน้าประกอบด้วยวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ค่ะ..

1. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

  • ครีมยกกระชับ (Firming Creams)
    ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล, เปปไทด์, และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูความกระชับของผิว
  • เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์
    ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก และวิตามิน C เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอย

2. การทำทรีตเมนต์ทางการแพทย์

  • การยกกระชับด้วยเลเซอร์ (Laser Therapy)
    เช่น เทคโนโลยี Fractional CO2 หรือ
    Non-ablative laser ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นขึ้น
  • การใช้ Endolift
    การใช้เทคโนโลยีการยกกระชับด้วยเส้นใยเลเซอร์ (Laser Fiber) ที่สามารถช่วยกระชับผิวหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผิวหน้าหย่อนคล้อย
  • การทำโบท็อกซ์และฟิลเลอร์
    การฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับและฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มพื้นที่ที่สูญเสียความเต็มฟู ช่วยให้รูปหน้าดูเรียวและกระชับขึ้น

3. การกระตุ้นคอลลาเจน

  • Microneedling (การทำไมโครนีดลิ่ง)
    เป็นการใช้เข็มเล็กๆ เจาะผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  • RF (Radio Frequency)
    การใช้คลื่นวิทยุที่ส่งพลังงานลึกเข้าสู่ผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวกระชับขึ้น
  • High-Intensity Focused Ultrasound
    การใช้คลื่นเสียงเพื่อยกกระชับผิวชั้นลึก โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

4. การรับประทานอาหารเสริมและการดูแลสุขภาพ

  • การรับประทานคอลลาเจน
    การเสริมคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • การดื่มน้ำมากๆ
    ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและดูสดใส
  • การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    อาหารที่มีวิตามิน C, E และสารสกัดจากชาเขียวช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย

5. การปรับพฤติกรรมชีวิต

  • การนอนหลับที่เพียงพอ
     ช่วยให้การฟื้นฟูผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การหลีกเลี่ยงแสงแดด
    ใช้ครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้รังสี UV ทำลายผิวและเร่งการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน
  • การลดความเครียด
    ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียความกระชับ

6. การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพทั่วไป

  • การออกกำลังกาย
    ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้ผิวดูสดชื่น
  • การรักษาน้ำหนักให้คงที่
    การลดน้ำหนักเร็วเกินไปสามารถทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดความหย่อนคล้อยได้

1. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

  • ครีมยกกระชับ (Firming Creams)
    ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล, เปปไทด์, และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูความกระชับของผิว
  • เซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์
    ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก และวิตามิน C เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดริ้วรอย

2. การทำทรีตเมนต์ทางการแพทย์

  • การยกกระชับด้วยเลเซอร์ (Laser Therapy)
    เช่น เทคโนโลยี Fractional CO2 หรือ
    Non-ablative laser ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นขึ้น
  • การใช้ Endolift
    การใช้เทคโนโลยีการยกกระชับด้วยเส้นใยเลเซอร์ (Laser Fiber) ที่สามารถช่วยกระชับผิวหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผิวหน้าหย่อนคล้อย
  • การทำโบท็อกซ์และฟิลเลอร์
    การฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับและฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มพื้นที่ที่สูญเสียความเต็มฟู ช่วยให้รูปหน้าดูเรียวและกระชับขึ้น

3. การกระตุ้นคอลลาเจน

  • Microneedling (การทำไมโครนีดลิ่ง)
    เป็นการใช้เข็มเล็กๆ เจาะผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  • RF (Radio Frequency)
    การใช้คลื่นวิทยุที่ส่งพลังงานลึกเข้าสู่ผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวกระชับขึ้น
  • High-Intensity Focused Ultrasound
    การใช้คลื่นเสียงเพื่อยกกระชับผิวชั้นลึก โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

4. การรับประทานอาหารเสริมและการดูแลสุขภาพ

  • การรับประทานคอลลาเจน
    การเสริมคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • การดื่มน้ำมากๆ
    ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและดูสดใส
  • การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    อาหารที่มีวิตามิน C, E และสารสกัดจากชาเขียวช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย

5. การปรับพฤติกรรมชีวิต

  • การนอนหลับที่เพียงพอ
     ช่วยให้การฟื้นฟูผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การหลีกเลี่ยงแสงแดด
    ใช้ครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้รังสี UV ทำลายผิวและเร่งการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน
  • การลดความเครียด
    ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียความกระชับ

6. การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพทั่วไป

  • การออกกำลังกาย
    ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้ผิวดูสดชื่น
  • การรักษาน้ำหนักให้คงที่
    การลดน้ำหนักเร็วเกินไปสามารถทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดความหย่อนคล้อยได้

ทั้งนี้ ทุกคนจะเห็นแล้วว่าแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญค่ะ

“EndoliftX” เทคโนโลยีแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยแห่งยุคที่ทุกคนต้องรู้จัก

“EndoliftX” เป็น เทคโนโลยีที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้าและแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยการใช้เลเซอร์ที่มีความเฉพาะตัวในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด เทคนิคนี้เป็นการใช้เส้นใยไฟเบอร์ที่ละเอียด (fiber optics) ที่ถูกสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อปล่อยพลังงานเลเซอร์อย่างแม่นยำในชั้นผิวที่ลึกเพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ

  • การกระตุ้นคอลลาเจน: เลเซอร์ที่ใช้ใน EndoliftX จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวกระชับและยืดหยุ่น เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินมีการผลิตเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ผิวหนังตึงขึ้นและยกกระชับ
  • การใช้ไฟเบอร์ออปติกส์: เทคโนโลยีนี้ใช้เส้นใยไฟเบอร์ออปติกส์ที่มีขนาดเล็กเพียงเส้นผม ซึ่งสามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังที่ลึกได้โดยไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ และสามารถปล่อยพลังงานเลเซอร์ให้ตรงจุดที่ต้องการ
  • ไม่ต้องการการผ่าตัด: เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด ทำให้ไม่ต้องพักฟื้น และผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที
  • ความแม่นยำสูง: การใช้ไฟเบอร์ออปติกส์ที่สามารถเจาะลึกได้ถึงชั้นผิวหนังที่ต้องการกระตุ้น จึงมีความแม่นยำในการทำงานสูง
  • การยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด: ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ไม่มีการใช้เข็มหรือมีการบาดเจ็บของผิวหนัง ทำให้การฟื้นตัวเร็วและปลอดภัย
  • การกระตุ้นคอลลาเจนที่ยาวนาน: ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่เกิดขึ้นภายในผิวจะทำให้ผลลัพธ์ยืดหยุ่นและยาวนาน
  • ผิวกระชับและยกขึ้น: หน้าจะดูเต่งตึงและมีความกระชับมากขึ้น
  • ลดรอยย่นและริ้วรอย: ความหย่อนคล้อยของผิวจะลดลง รวมถึงริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน
  • ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น: ผิวหน้าจะดูมีชีวิตชีวาและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นแล้วว่า EndoliftX ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องการการผ่าตัดหรือการใช้เวลาฟื้นตัวนานเหมือนการยกกระชับด้วยวิธีอื่น ๆ เช่นการยกกระชับด้วยการผ่าตัดหรือการฉีดฟิลเลอร์นั่นเองค่ะ

EndoliftX Laser Fiber” เทคนิคใหม่ของ เทคโนโลยี EndoliftX

ที่ Dr.Vanda Aesthetic Clinic ยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“EndoliftX Laser Fiber”เทคโนโลยีที่จะมาเขย่าวงการยกกระชับผิวหน้าให้ก้าวไปอีกขั้น ซึ่ง EndoliftX รูปแบบนี้เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการกระชับผิวหน้า ลำคอ และสลายไขมัน

โดย EndoliftX Laser Fiber เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความคลื่นอยู่ที่ 1470 nm. เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังและช่วยยกกระชับผิว โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และกระชับผิวโดยรวม โดยการใช้ EndoliftX แบบเลเซอร์ไฟเบอร์นั้นจะมีข้อดีคือการใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้นจากภายใน ทำให้ผิวดูตึงกระชับและอ่อนเยาว์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ

จุดเด่นของ EndoliftX Laser Fiber อีกหนึ่งจุด คือ การใช้เส้นใยไฟเบอร์ขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่บางมาก (มีความบางกว่าเส้นผม) เพื่อนำเลเซอร์ไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนังอย่างตรงจุด ซึ่งจะเน้นในการสลายไขมันในบริเวณที่ต้องการ เช่น กรอบหน้า แก้ม คาง และลดความหย่อนคล้อยอย่างตรงจุด ซึ่งจะช่วยยกกระชับโดยตรงและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดไขมันส่วนเกินได้อย่างชัดเจนค่ะ

ทั้งนี้ เทคโนโลยี EndoliftX รูปแบบนี้เปิดให้บริการแล้วที่ Dr.Vanda Aesthetic Clinic สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ารับการประเมินและคำปรึกษาจากแพทยฺผู้เชี่ยวชาญของเราได้เพื่อให้แผนการรักษาเหมาะสมและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เข้ารับบริการได้อย่างตรงจุดที่สุดค่ะ

ทำไมต้องทำ EndoliftX กับ Dr.Vanda Aesthetic Clinic

ที่ Dr.Vanda Aesthetic Clinic ของเรานั้น นอกจากจะเป็นคลินิกที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้มาตรฐานและปลอดภัยแล้ว เรายังนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้บริการกับคนไข้ของเราทุกท่านเพื่อให้ผลลัพธ์ของทุก ๆ บริการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านมั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัยเมื่อให้เราดูแลค่ะ

OTHER ARTICLE

CELEBRATING BEAUTY , THE ART OF LIFE

In our pursuit of redefining beauty, we do not only transform appearances but also uplift spirits and inspire confidence for our valued patient.